‘กัญชา’ พืชเสพติดที่ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกอนุญาตให้ใช้อย่างถูกกฎหมายทั้งในการผ่อนคลายและในทางการ แพทย์ที่มีการยอมรับถึงคุณประโยชน์และคุณสมบัติในการรักษาโรคร้ายให้หายได้
‘กัญชา’ เป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียวที่มีสารสําคัญที่เชื่อว่าออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เรียกว่า ‘สาร THC’ ซึ่งสารชนิดนี้ จะออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายสารนั้นจะแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว และจะออกฤทธิ์ ต่อจิตประสาททําให้ผู้เสพมีอาการมึนเมาและเซื่องซึมลงอย่างช้า ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับผลกระทบของสุราและ บุหรี่แล้ว ทั้งสองอย่างถือว่าก่อผลกระทบที่รุนแรงได้มากกว่า อีกทั้งกัญชายังมีประโยชน์ทางการแพทย์จึงทําให้หลาย ประเทศพยายามผลักดันให้กัญชาไม่ผิดกฎหมาย แต่อนุญาตให้ใช้ภายใต้การควบคุมแทน
บ้านกล้วยสังคม จึงขอเสนอมุมมองข้อดีของกัญชาและยกตัวอย่างการนํากัญชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ มาให้ทุกคนได้ทราบกัน
กัญชาพืชเสพติดที่หลายประเทศทั่วโลก ประกาศให้นํามาใช้ในทางการแพทย์ โดยไม่ผิดกฎหมาย อย่างเช่นประเทศ สหรัฐอเมริกา ที่แพทย์นําสารสกัดจากกัญชามารักษาเด็กที่เป็นโรคลมชักชนิดร้ายแรงให้หายเป็นปกติได้ และยังได้รับการ รับรองจากสํานักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (FDA) ว่าตัวยา ‘เอพิไดโอเล็กซ์’ ซึ่งมีส่วนผสมของสารแคนนาบิไดอัล ที่สกัดจากกัญชา สามารถนํามาเป็นยาแก้อาการโรคลมชักชนิดร้ายแรงได้จริง ๆ นอกจากนี้หน่วยงานสหรัฐอเมริกายัง อนุญาตให้วางจําหน่ายยาชนิดนี้ในอีกหลายประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย เพื่อให้แพทย์นําไปรักษาผู้ป่วยคนอื่น ๆ ได้เพิ่ม ขึ้น และไม่ได้มีเพียงสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวที่เปิดเสรีกัญชาให้นํามาใช้ทางการแพทย์ได้ ยังมีประเทศอังกฤษ เนเธอร์เเลนด์อุรุกวัย อิสราเอล ออสเตรเลีย และแคนาดา ซึ่งประเทศแคนาดาที่นอกจากจะใช้กัญชาเพื่อรักษาทางการ แพทย์แล้ว ยังอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้อีกด้วย และในประเทศไทยเองก็กําลังเร่งผลักดันให้ปลดล็อกกัญชา เพื่อนํามาใช้รักษาโรคได้อย่างถูกกฎหมายเช่นกัน
ข้อดีของ ‘กัญชา’ ที่นํามาใช้ได้ในทางการแพทย์ สามารถนํามารักษาหรือบรรเทาโรคต่าง ๆ ได้มีอะไรบ้าง
1.โรคลมชัก 2.บรรเทาหอบหืด
3.ปวดหัวไมเกรน
4.โรคเอดส์
5.โรคมะเร็ง
ทั้งนี้ โรคหอบหืด ปวดหัวไมเกรน และโรคเอดส์ กําลังอยู่ในขั้นตอนการใช้สารสกัดจากกัญชาทดลองในสัตว์ ซึ่งผลที่ออก มาถือว่ามีการตอบสนองได้ดี เหลือเพียงแต่การใช้ทดลองในคนเท่านั้น และเเพทย์ยังยืนยันอีกว่าสามารถใช้รักษาผู้ป่วยให้ หายได้แน่นอน
นอกจากนี้ กัญชายังถูกนํามาใช้เพื่อรักษาผลข้างเคียงโรคมะเร็ง ป้องกันการคลื่นไส้อาเจียนจากการทําเคมีบําบัด ใช้เป็น สารกระตุ้นความอยากอาหาร ซึ่งกัญชาจะช่วยชะลอปัญหาน้ําหนักลดในผู้ป่วยโรคมะเร็งได้
จากงานวิจัยของ นายบัณฑูร นิยมาภา หรือ ‘ลุงตู้’ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้กัญชาทางการแพทย์ โดยเริ่มจากการสกัดสาร กัญชามาในรูปแบบน้ํามันนาโน เพื่อรักษาผู้ป่วยมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ลุงตู้เล่าว่า ส่วนตัวชื่นชอบสมุนไพรกัญชาเป็นทุน เดิม จากนั้นได้ศึกษาข้อมูลจากงานวิจัยของต่างประเทศ มีผลบ่งชี้ชัดเจนว่ากัญชามีสารสกัดที่เรียกว่า ‘THC’ มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดโดยเฉพาะช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้ จึงเริ่มนํามาใช้จริงเพื่อรักษาน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูกจนตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว
อีกทั้ง นายเเพทย์ ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ รองอธิบดีฝ่ายแพทย์ฯ ม.รังสิต ได้ให้ข้อมูลว่า ทีมนักวิจัยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ทดลองนํากัญชาที่ได้รับอนุญาตมาศึกษาวิจัย เพื่อหาวิธีการสกัดเอาสารออกฤทธิ์ในกัญชามาใช้ ประโยชน์เป็นยาสมัยใหม่ เบื้องต้นสําเร็จเป็นสเปรย์ฉีดพ่นในช่องปาก เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและผลข้างเคียงของผู้ ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบําบัดและกําลังทดลองในหนู คาดหวังว่ากฎหมายใหม่ที่จะออกมา ซึ่งอนุญาตให้นําตัวยาไป ทดลองในคนเพื่อให้การศึกษาวิจัยมีความสมบูรณ์
นายเเพทย์ ศุภชัย กล่าวอีกว่า “เราไม่มีข้อสงสัยการใช้ประโยชน์กัญชาในทางการแพทย์เลย เพราะเขาใช้กันทั่วโลก และ ทางเราขอให้ได้วิจัยเพื่อพัฒนายากัญชา ที่จะนํามาใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาคนไทยต่อไป”
ทั้งนี้ การนํากัญชามาใช้ในทางการแพทย์ยังมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มคนทั่วไป เพราะเชื่อว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติด แต่หากพืช เสพติดอย่างกัญชาที่ถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายคอยมอมเมาผู้คน สามารถนํามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์และเป็นความหวัง ใหม่ของผู้ป่วยได้ บ้านกล้วยสังคมก็ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงสนับสนุนการใช้กัญชาในทางการแพทย์
Commenti