top of page
Writer's pictureBaankluay News

ทำอย่างไรให้สุขภาพดี

ช่วงนี้เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจและดูแลตนเองมากขึ้น ทั้งเรื่องการกิน การพักผ่อน รวมไปถึงการออกกำลังกาย ถ้าเราสามารถจัดการทั้ง 3 เรื่องนี้ให้สมดุลกันได้ รับรองว่าเราทุกคนจะมีหุ่นสวยและสุขภาพดีอย่างแน่นอน


บ้านกล้วยไลฟ์สไตล์ก็มีเคล็ดลับเพื่อสุขภาพดีง่าย ๆ มาบอกกันค่ะ


การกิน

1. อาหารคลีน อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ หรือผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด เป็นอาหารที่สดสะอาด ไม่ผ่านกระบวนการหมักดองหรือปรุงรสใด ๆ มากจนเกินไป


2. อาหารบำรุงเลือด สำหรับคนที่เป็นโลหิตจางหรือแค่อยากบำรุงเลือดของตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุด ควรเลือกทานอาหารประเภทที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและโปรตีน อย่างเช่น เนื้อสัตว์ ธัญพืช อาหารทะเล จมูกข้าวสาลี แก้วมังกร กล้วย เป็นต้น


3. อาหารบำรุงสมอง จะเป็นสารอาหารที่ประกอบไปด้วย เออาร์เอที่เป็นกรดไขมันในกลุ่มเดียวกับโอเมก้า 3 และ 6 ลูทีนที่เป็นสารอาหารกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ โคลีนเป็นสารอาหารในกลุ่มวิตามินบีรวม เหล็ก และสังกะสี


4. อาหารบำรุงสายตา เราทุกคนก็จะรู้จักกันดีอย่าง ‘ผักบุ้ง’ แต่นอกจากผักบุ้งแล้วก็ยังมีอาหารชนิดอื่น ๆ อีกที่สามารถบำรุงสายตาได้ อย่างเช่น พริกหยวก แครอท ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไข่ มันเทศ ปลาแซลมอน เป็นต้น


5. เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์ที่จับต้องได้หรือเครื่องดื่มที่มีการบ่งบอกชัดเจนถึงคุณประโยชน์ เช่น นมธัญพืช นมถั่วเหลืองสูตรเจน้ำตาลต่ำ ชาเขียวผสมคอลลาเจน นมสดพร้อมดื่ม น้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของแอลคาร์นิทีน เป็นต้น


6. อาหารล้างสารพิษ (Detox) จัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุด มีอาหารหลายชนิดที่สามารถล้างสารพิษได้ ไม่ว่าจะเป็นในตับ ไต ลำไส้ หรือผิวพรรณ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการก่อตัวของสารพิษได้อีกด้วย นั่นก็คือ แอปเปิ้ล อะโวคาโด บีทรูท บลูเบอร์รี่ กระหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย กระเทียม คะน้า เป็นต้น


การพักผ่อน

การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด ขาดไม่ได้พอ ๆ กับการทานอาหารในทุกวัน คนเราควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ถ้าเป็นไปได้ควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่มครึ่ง เข้านอนและตื่นเป็นเวลา รวมทั้งไม่ทำกิจกรรมกระตุ้นจิตใจก่อนนอน อย่างเช่น ดูหนังสยองขวัญ หรืออ่านหนังสือที่เครียด ๆ และควรจัดที่นอนให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการนอนหลับคือ แสงสว่างที่พอเหมาะ สภาพอากาศปลอดโปร่ง ไร้เสียงรบกวน รวมไปถึงเตียงนอนนุ่ม ๆ ที่นอนสบาย ก็จะช่วยให้ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่นในวันรุ่งขึ้น


การออกกำลังกาย

ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ ในระดับการออกกำลังกายแบบปานกลาง หรือ 75 นาที/สัปดาห์ ในระดับการออกกำลังกายแบบหนัก และควรจัดตารางการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องการจะลดน้ำหนักเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ส่วนคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดัน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อจัดตารางการออกกำลังกายหรือหาวิธีการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเรา แล้วอย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อสุขภาพที่ดีและความปลอดภัยของตัวเราเองด้วย


บ้านกล้วยไลฟ์สไตล์ก็มีท่าการออกกำลังกายง่าย ๆ มาแนะนำ ให้ลองไปทำตามกันดูนะคะ


Squats

- ยืนตรงแยกขาให้กว้างประมาณหัวไหล่ ปลายเท้าชี้มาด้านหน้า มือทั้ง 2 ข้างวางไว้ที่ท้ายทอย

- หายใจเข้างอเข่า พร้อมกับย่อตัวลง ให้หัวเข่าทำมุมประมาณ 45-90 องศา

- หายใจออก พร้อมกับดันตัวขึ้น กลับสู่ท่าเริ่มต้น


Mountain Climber

- เริ่มต้นในท่าเหมือนจะวิดพื้น

- เกร็งท้องพร้อมนำเข่าด้านใดด้านหนึ่งดึงเข้ามากลางลำตัว พยายามให้ลำตัวตรง แล้วสลับขาไป-มา


Lunges

- ยืนตัวตรง ก้าวขาข้างใดข้างหนึ่งออกไปข้างหน้า

- ย่อตัวลงตรง โดยให้หัวเข่าทำมุมประมาณ 90 องศา ลำตัวตั้งตรงไม่โค้งงอ

- ยกตัวขึ้นพร้อมกลับมายืนในท่าตรง สลับทำที่ละข้างไป-มา


Jumps

- ยืนตรงมือแนบลำตัว

- กระโดด แยกขาออก พร้อมกับยกมือขึ้นเหนือหัว

- กระโดดสลับเอามือขึ้น-ลงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ให้ต่อเนื่อง


ลองนำทั้ง 3 เคล็ดลับนี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน จัดตารางการออกกำลังกายให้ลงตัว วางแผนให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง ดูแลการกินให้ได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ หรือเลือกวิตามินบำรุงชนิดต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเรา และใส่ใจการนอน นอนให้ครบอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงเพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ

61 views0 comments

Comments


bottom of page