top of page
Writer's pictureBaankluay News

6 ทริคเด็ดเอาชนะอาการ PMS


ขอบคุณภาพจาก Pixabay

เคยสงสัยกันไหม ทำไมพอใกล้ถึงวันนั้นของเดือน สาว ๆ หลายคนถึงมีอารมณ์แปรปรวน จากร่าเริง แจ่มใส กลายเป็นเหวี่ยงวีน เข้าหน้าใครไม่ติด รู้สึกได้เลยว่าอารมณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวเศร้า เหงา ร้องไห้น้ำตาแตก ไหนจะสิวขึ้น ปวดท้อง มาพร้อมกันไปหมด นั้นก็เพราะพวกคุณอยู่ในช่วงอาการ PMS น่ะสิ


PMS หรือ Premenstrual Syndrome คือ กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่เจอได้เกือบ 75% ของสาว ๆ จะมีอาการไม่สบายตัว อารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่ายกว่าปกติ โดยมักจะเป็นในช่วงก่อนมีประจำเดือนประมาณ 2 สัปดาห์ และอาการพวกนี้จะเริ่มดีขึ้นหลังประจำเดือนมาได้ 4-7 วัน แต่ละคนอาจจะมีอาการมากน้อยแตกต่างกัน สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง ความเครียด โรคซึมเศร้า หรือร่างกายที่ขาดวิตามินและเกลือแร่


บ้านกล้วยไลฟ์สไตล์ ได้รับข้อมูลดี ๆ จาก สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย จึงมี 6 ทริคเด็ดที่จะจัดการอาการ PMS นี้ให้อยู่หมัด มาดูกันเลย


ขอบคุณภาพจาก Pixabay
1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่อาจช่วยให้อาการ PMS เบาลง จะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในเลือดทำให้สาว ๆ สบายตัว เพราะเวลาออกกำลังกายจะมีฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ทำให้ไม่เครียดและยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีอีกด้วย ถ้าหากว่าวันนั้นเป็นวันเเดงเดือดบ้านกล้วยไลฟ์สไตล์ขอแนะนำว่า ไม่สมควรออกกำลังกายหนักเกินไป แต่ควรใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพราะช่วงนี้ร่างกายอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ


ขอบคุณภาพจาก Pixabay
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ช่วงก่อนมีประจำเดือน สาว ๆ ควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหารต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เลือกกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและแคลเซียมสูง เช่น ไข่ ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่าง ๆ เป็นต้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มหรือหวานจัด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีน เช่น เบียร์ กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม เพื่อไม่ให้มดลูกบีบตัวมากเกินไป ซึ่งวิธีนี้อาจจะเห็นผลแค่กับบางคนเท่านั้น


ขอบคุณภาพจาก Pixabay
3. ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ก่อนหรือช่วงมีประจำเดือน สาว ๆ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงจะดีมาก เพราะการหลับจะช่วยทำให้เราสดชื่น ลดความเครียดวิตกกังวล ร่างกายจะปรับฮอร์โมนให้สมดุล พอถึงวันเเดงเดือดเราก็จะเหวี่ยงวีนน้อยลง นอกจากนี้เป็น การชาร์จแบตให้กับตัวเอง แต่ถ้าใครมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ แนะนำว่าอย่าซื้อยานอนหลับมาทานเองนะคะ ควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีกว่าปลอดภัยแน่นอน


ขอบคุณภาพจาก Pixabay
4. ทานยาปรับฮอร์โมน

ในปัจจุบันยาที่ใช้ลดอาการ PMS มีหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งยาคุมกำเนิดและยาเฉพาะโรค แต่ถ้าพูดถึงยาที่ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนต้องนึกถึง ยา Ponstan ที่สาว ๆ หลายคนรู้จักดี แต่ตัวยาประเภทนี้มักมีความเป็นกรดและอาจมีผลข้างเคียงได้ อย่างไรก็ตามยาที่ช่วยปรับฮอร์โมน ควรทานเฉพาะช่วงที่มีอาการปวดเท่านั้น เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดการสะสมทางตับและไตจากการใช้ยาเป็นระยะเวลานาน ๆ ส่วนยาคุมกำเนิดให้เลือกใช้ชนิด 24+4 เม็ด เป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนในระดับต่ำ ช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) เช่น อารมณ์แปรปรวน อาการคัดหน้าอก สิวขึ้น และสามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป หากปวดประจำเดือนมาก ๆ ควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีกว่า


ขอบคุณภาพจาก Pixabay
5. ประคบร้อน อาบน้ำอุ่น หรือจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ

อาการ PMS จะทำให้เราปวดเมื่อยตามร่างกาย และมีอาการปวดท้องประจำเดือน การประคบร้อนจะช่วยให้ความร้อนเข้าไปขยายหลอดเลือด และลดอาการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ลดอาการปวดท้อง การอาบน้ำอุ่นและการจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ จะช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย


ขอบคุณภาพจาก Pixabay
6. ออกไปหากิจกรรมทำกับเพื่อน

ช่วง PMS จะทำให้เรารู้สึกเครียด เหงา เศร้า การออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ อาจช่วยให้เราผ่อนคลายมากขึ้น เพราะอย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรที่สนุก ๆ ไม่ใช่แค่อยู่ในห้องตามลำพังคนเดียว การไปหาเพื่อนจะช่วยลดอาการ PMS ได้เช่นกัน เนื่องจากเราจะไม่เครียด ถ้าไม่อยากไปพบเพื่อนเราก็ต้องพยายามทำจิตใจให้แจ่มใสเข้าไว้ และหากิจกรรมที่ชอบทำ เช่น อ่านนิยายเล่มโปรด คุยแชทกับเพื่อน หรือท่องโลกอินเทอร์เน็ต เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเราไปจากอาการเจ็บปวดที่มีอยู่


อย่าวางใจไปอาการ PMS เป็นภัยเงียบได้เหมือนกันเพราะถ้าเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ อาจจะลุกลามกลายเป็นอาการ PMDD หรือ Premenstrual Dysphoric Disorder ได้ ซึ่งอาการนี้มักจะหนักจนทำลายความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง! และเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน


ทริคเด็ดนี้ทางบ้านกล้วยไลฟ์สไตล์ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าอาจใช้ไม่ได้กับทุกคนเพราะเป็นเเค่ประสบการณ์ของบางคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามถ้าหากมีอาการ PMS หนักมาก ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางดีกว่านะคะ

181 views1 comment

Comments


bottom of page