ความรู้ภาษีเบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มมีรายได้

ภาษีเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับใครหลายคนโดยเฉพาะผู้ต้องจ่ายภาษีเป็นครั้งแรก และไม่ศึกษาข้อมูลเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจยาก ทำให้เกิดความผิดพลาดในการจ่ายภาษีโดยไม่รู้ตัว เพื่อแก้ปัญหาความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนเริ่มทำงานและมีรายได้ ให้ทราบถึงสิทธิและหน้าที่ที่ตนควรทำ

ปกติในชีวิตประจำวันคนเราก็เสียภาษีกันอยู่แล้วคือ ภาษีทางอ้อม สังเกตจากใบเสร็จการซื้อสินค้าสิ่งที่จะเห็นคือภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT โดยจะเก็บเพิ่ม 7% ตาม กฎหมายกำหนด เช่น สินค้าราคา 100 บาท ก็จะขาย 107 บาทโดยเขียนว่าราคานี้รวมภาษีแล้ว

สำหรับภาษีที่ทุกคนต้องรู้ คือภาษีทางตรงหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้เสียภาษีไม่สามารถผลักภาระการเสียภาษีนี้ไปให้ผู้อื่นได้ ภาษีตัวนี้จะเรียกเก็บจากบุคคลธรรมดาทั่วไปที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ ซึ่งกฎหมายกำหนดเกณฑ์ว่า ผู้มีรายได้จากงานประจำตลอดทั้งปีไม่เกิน 120,000 บาท ไม่มีหน้าที่ต้องยื่นภาษี หรือคิดง่ายๆคือ มีเงินเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องไปสนเรื่องภาษีให้ปวดหัว แต่หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ก็จะแบ่งบุคคลธรรมดาออกเป็น 2 กลุ่ม ตามหน้าที่

1. ผู้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี

คือกลุ่มบุคคลที่ทุกคนต้องเป็นมาก่อน โดยที่ทุกคนที่มีรายได้จะต้องยื่นแบบจำนงแสดงรายการเสียภาษี โดยการบอกรายได้ต่างๆของตน กับกรมสรรพากรด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันสามารถยื่นแบบผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรโดยตรงตามขั้นตอนดังนี้

1. เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร กดเลือกที่ ยื่นแบบผ่านอินเตอร์เน็ต

2. กดสมัครสมาชิกสำหรับคนที่ยังไม่เคยลงทะเบียน พร้อมกดอ่านคำแนะนำที่เมนูข้างๆกัน

3. สำหรับภาษีบุคคล กดที่สมัครเพื่อยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91/94

4. ระบุสัญชาติ

5. กรอกรายละเอียด โดยเฉพาะเลขบัตรประชาชนเพื่อใช้ระบุตัวตน ก่อนที่จะกรอกแบบแสดงรายการเสียภาษี

2. กลุ่มผู้ต้องเสียภาษี

หลังจากผ่านการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีมาแล้ว ถ้าหากว่ามีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดที่ประมาณ 26,000 ต่อเดือน จะเริ่มเข้าข่ายบุคคลผู้ต้องเสียภาษี ดังระบุอัตราภาษีตามเพดานรายได้ของบุคคล ไว้ดังนี้

ประชาชนคนใดที่ทราบว่าถึงเกณฑ์ต้องจ่ายภาษีแล้วก็อย่าพึ่งใจเสียไป เพราะถึงอย่างไร รัฐบาลก็มีนโยบายลดหย่อนภาษีช่วยอยู่ด้วย เช่น ได้สิทธิลดหย่อนจากการมีบุตร คู่สมรส หรือสิทธิจากโปรโมชั่นลดหย่อนภาษีจากรัฐ ซึ่งแต่ละปีก็เปลี่ยนไปตามกระแสสังคม อย่างในปี 2560 มีนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวหรือการจับจ่ายซื้อสินค้า ทั้งนี้การลดหย่อนภาษีนี้ก็เป็นความรู้ที่ควรศึกษาไว้เช่นกัน และการจ่ายภาษีในยุคปัจจุบันสะดวกยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่มีช่องทางให้เลือก เช่น ไปรษณีย์ เอทีเอ็ม โมบาย แบงค์กิ้ง โดยสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายภาษีแบบเต็มจำนวน หรือแบบผ่อนชำระเป็นงวด

ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า การยื่นแบบภาษีเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำและต้องกรอกรายละเอียดยื่นแบบภาษีให้ครบถ้วนและเก็บเอกสารไว้ เพื่อเป็นหลักฐานแก่กรมสรรพากร การทำเรื่องลดหย่อนก็สำคัญทำให้เราไม่ต้องเสียภาษีในบางส่วนที่ต้องจ่าย ทั้งนี้มีคนไทย 10 ล้านคนที่ยื่นภาษีแต่คนเข้าข่ายจ่ายภาษีมีเพียง 4 ล้านคน ที่แบกรับภาระรายจ่ายของประเทศทำให้เรื่องของภาษีเราจำเป็นต้องรู้และก็ต้องจ่าย

สรุปผู้มีรายได้เกิน 10,000 บาทต่อเดือนต้องยื่นภาษี แต่หากมีรายได้ประมาณ 26,000 บาทต่อเดือนจะเป็นผู้เข้าข่ายต้องเสียภาษี ดังนั้นการวางแผนการจัดการการเงินของตนและศึกษากฎกติกาจะเป็นประโยชน์ที่ดีในอนาคตเมื่อถึงเวลาต้องจ่ายภาษี เช่นกัน