การแข่งขันฟุตบอลโลกหรือ FIFA World Cup นั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ทีมชาติไทยตั้งความหวังกับการเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาโดยตลอด แต่ผ่านมานานแค่ไหนฟุตบอลทีมชาติไทยก็ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันเลยสักครั้งเดียว เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวใหญ่ที่ทำให้ทีมชาติไทย และกองเชียร์มีความหวังมากขึ้น โดยสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศหรือ FIFA ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขยายเพิ่มจำนวนทีมในการแข่งขันฟุตบอลโลกในรอบสุดท้ายจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีม การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ในทวีปอเมริกาเหนือ โดยมี แคนาดา เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา ได้รวมกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
ฟุตบอลโลกในปี 2026 นั้น ทีมชาติไทยมีโอกาสเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายมากขึ้นเพราะมีการเพิ่มทีมเพื่อเข้ารอบจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีม ซึ่งจะแบ่งเป็นโควตาของแต่ละทวีปดังนี้
หากมองจากโควตาโซนเอเชียทีมชาติไทยมีโอกาสในการเข้ารอบสุดท้ายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว อาจจะมองดูง่ายแต่ในทางปฏิบัติแล้วมีอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย เช่น อายุที่มากขึ้นของนักเตะทีมชาติไทยในชุดปัจจุบัน การวางแผนในระยะยาวของทีมชาติไทย และรูปแบบการจัดระบบเยาวชนของทีมชาติไทยที่ยังไม่ได้มาตรฐาน และอาจจะยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทยในอนาคต จาก 2 ปัจจัยหลักที่จะเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทยในปัจจุบัน
ปัจจัยแรกคืออายุที่มากขึ้นของนักฟุตบอลหากจะใช้ทีมชาติไทยชุดปัจจุบันซึ่งเป็นชุดที่สร้างความหวังใหม่ในการแข่งขันฟุตบอลในบอลโลก 2026 คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะแต่ละคนจะมีอายุเพิ่มขึ้นอีก 8 ปี ยกตัวอย่างเช่น กองกลางคนสำคัญอย่าง เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ขณะนี้อายุ 24 ปี แต่ในอีก 8 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 32 ปี หรือ กองหน้าตัวเก่ง เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา อายุปัจจุบัน 30 แล้ว นั่นหมายความว่า 8 ปีข้างหน้าสภาพร่างกายของพวกเขาจะโรยราไปมากแค่ไหน บ่งชี้ว่าอายุของนักเตะเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้น ๆ เพราะทีมเยาวชนในชุด U19 U21 หรือแม้กระทั่ง U23 ยังไม่สามารถขึ้นมาทดแทนทีมชาติชุดปัจจุบันได้
ปัจจัยต่อมาคือการวางแผนในระยะยาวของทีมชาติไทย และรูปแบบการจัดระบบเยาวชนของทีมชาติไทยที่ยังไม่ได้มาตรฐานและมีความต่อเนื่อง หากทีมชาติไทยจะสร้างรากฐานขึ้นมาเพื่อหวังที่จะได้ไปฟุตบอลโลกในปี2026 ปัจจัยนี้เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน จาก ‘เยอรมันโมเดล’ (German Model) โดยเป็นแผนการพัฒนาทีมในระยะยาวเป็นเวลา 10 ปี หลังจากล้มเหลวกับการแข่งขันของทีมชาติของตนก่อนหน้านี้ ซึ่งโมเดลนี้ก็ประสบความสำเร็จ เพราะทีมชาติเยอรมันนีได้พัฒนารากฐานจากทีมเยาวชนจนเป็นแชมป์โลกในปี 2014 และได้มีการพัฒนาในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปด้วย ในปัจจุบันเราจะเห็นกันว่าทีมชาติไทยได้มีการวางรากฐานระบบเยาวชนเพื่อเป็นขุมกำลังไว้ใช้ในอนาคตต่อไป สังเกตได้จาก เยาวชนทีมชาติไทย U16 ชุดนี้ที่สร้างผลงานได้โดดเด่นและคาดการณ์ว่าจะเป็นชุดที่เป็นความหวังในการเล่นฟุตบอลโลก 2026 ของทีมชาติไทยในอนาคต
โดย โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล กรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เคยให้สัมภาษณ์ในรายการสุมหัวคิด ถึงรากฐานของระบบเยาวชนทีมชาติไทยไว้ว่า "เราจะต้องทำเยาวชนไม่ใช่แค่อายุ 16 ปี แต่เราต้องทำ 15 14 13 12 รวมถึง 11 ด้วยเพราะว่าพออายุ 18 ปีเด็กจะหายไปครึ่งหนึ่ง เพราะถ้างั้นตรงนี้ถ้าเราหวังแค่ชุดใดชุดหนึ่งสมมุติหวังแค่ อายุ 16 ปีพออีกเจ็ดแปดปีข้างหน้ามันจะใช้ได้แค่ 2 คนในแต่ละชุด ที่จะขึ้นมาเล่นทีมชาติเพราะฉะนั้นเราจะต้องเตรียมทีมอย่างมีระบบแบบแผน"
ในอนาคตมีการคาดการณ์ว่าทีมชาติไทยจะใช้ระบบ Thai way ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานในการสร้างความลงตัวของทีมในแบบฉบับที่กำหนดเอง ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนวิเคราะห์ข้อมูลนักเตะทีมชาติไทยและเยาวชนทีมชาติ
ท้ายที่สุดแล้วความหวังของทีมชาติไทยที่จะไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 แม้จะมีโควตาทีมที่เพิ่มขึ้น แต่เรายังมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมความพร้อมอีกมาก เพื่อให้ได้มาตรฐานของทีมที่พร้อมจะก้าวออกไปแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในมุมมองของกองเชียร์ก็ยังอยากเห็นฟุตบอลทีมชาติไทยของเราได้เข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสักครั้ง ไม่ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหนก็ยังคงคอยเอาใจช่วย และเฝ้ามองดูการเติบโตในอนาคตของทีมชาติไทยกันต่อไป
Comments