หลายคนคงคุ้นชินกับการเล่นฮอกกี้บนลานน้ำแข็ง แต่ความจริงแล้วฮอกกี้มีรูปแบบการเล่นอยู่ 2 แบบ คือการเล่นบนลานน้ำแข็ง (Ice Hockey) และการเล่นบนสนามหญ้า (Indoor Hockey)
กีฬาฮอกกี้เป็นกีฬาที่มีความเป็นมาอย่างยาวนาน เมื่อ 44 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีการค้นพบหลักฐานโดยชาวกรีกโรมัน บ่งบอกว่ามีการเล่นกีฬาชนิดนี้กันอยู่แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าฮอกกี้เป็นกีฬาที่มีอายุกว่า 4,000 ปี เลยทีเดียว
กีฬาฮอกกี้ถึงแม้จะไม่เป็นที่นิยมในหลาย ๆ ประเทศ แต่ได้บรรจุเป็นหนึ่งในกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่ ค.ศ. 1908 โดยมีอังกฤษเป็นเจ้าภาพ หลังจากนั้นกีฬาฮอกกี้ก็ถือเป็นกีฬาสากลที่ทั่วโลกยอมรับ และเป็นกีฬาที่ปรากฏอยู่บนโลกใบนี้จนถึงปัจจุบัน
วันนี้บ้านกล้วยกีฬาจะพาไปสร้างแรงบันดาลใจกับนักกีฬาฮอกกี้ของประเทศไทย นายพรพล พุทธรักขิต หรือ (ซอว์) นักกีฬาฮอกกี้ประเทศไทย พูดถึงแรงบันดาลใจว่าทำไมถึงมาเลือกเล่นกีฬาฮอกกี้และทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จในกีฬาที่เลือกเล่นได้ เราไปพูดคุยกับซอว์กันเลย
บทสัมภาษณ์
Q : ตอนเด็ก ๆ ชอบเล่นกีฬาไหม
A : ตอนเด็ก ๆ ก็เล่นกีฬาปกติทั่วไปพวก ฟุตบอล ตะกร้อ วอลเลย์บอล ก็เล่นทุกอย่างเหมือนเด็กทั่วไปครับ
Q : แล้วทำไมถึงมาเล่นฮอกกี้ได้
A : ตอนแรกที่เล่นฮอกกี้ก็เพราะว่าเป็นกีฬาที่มีการจัดการแข่งขันเยาวชนแห่งชาติ แล้วทางจังหวัดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ตอนนั้นมีการเปิดคัดนักกีฬา ทางบ้านก็เลยพาเราไปคัดจนเราติดได้เป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งในรายการชิงแชมป์เยาวชนแห่งชาติ
Q : อะไรเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญถึงมาจริงจังกับการเล่นกีฬาฮอกกี้
A : ตอนนั้นคิดว่าเล่นกีฬาน่าจะมีอนาคตกว่า เพราะเราหันมาเอาดีทางด้านกีฬามากกว่าการเรียน เราจึงทุ่มเทมากเป็นพิเศษ จนสุดท้ายก็โฟกัสแต่กีฬาเป็นสำคัญ แต่เรื่องการเรียนก็ไม่ถึงกับทิ้งไปเลยเราต้องทำให้ทั้ง 2 อย่างบาลานซ์ควบคู่กันไป
Q : ตอนติดทีมชาติครั้งแรกตอนนั้นรู้สึกอย่างไร
A : ตอนติดทีมชาติครั้งแรกภูมิใจมาก เพราะเราเริ่มต้นจากการที่ยังไม่รู้จักกีฬานี้เลยจะเรียกว่าเริ่มจากศูนย์เลยก็ได้ พอเราเริ่มเล่นกีฬาฮอกกี้เราก็สนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ขยันทุ่มเทฝึกซ้อมทุกวัน ซ้อมหนักมาก ๆ พอวันหนึ่งโอกาสมาถึงเราก็ไปคัดเพื่อจะเป็นนักฮอกกี้ทีมชาติไทย จนเรามีชื่อติดรอบแรกตอนนั้นเราก็รู้สึกดีใจแล้ว แต่การคัดตัวค่อนข้างยาก เขาจะตัดชื่อออกไปเรื่อย ๆ ทีละคน จนเหลือเราอยู่ในกลุ่มสุดท้ายที่ติดทีมชาติไทย ตอนนั้นก็รู้สึกดีใจและภูมิในใจตัวเองมาก ๆ ครับ
Q : ลักษณะการซ้อมของทีมชาติเป็นอย่างไร
A : ถ้าเป็นการซ้อมของทีมชาติก็จะแบ่งเป็น 3 ช่วงคือ เช้า กลางวัน เย็น ช่วงเช้าก็จะเป็นการซ้อมทักษะส่วนตัวโดยจะเจาะแต่ละบุคคล ช่วงกลางวันก็จะเป็นการเล่นเวทเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายเพราะกีฬาฮอกกี้มันต้องใช้ร่างกายเข้าปะทะค่อนข้างรุนแรง ส่วนช่วงเย็นก็จะเป็นการซ้อมระบบทีม จะเล่นและวางแผนแบบไหน
Q : การแข่งขันสนามแรกในฐานะทีมชาติรู้สึกอย่างไร
A : การแข่งสนามแรกจะเป็นที่ฮ่องกง วันนั้นผมเป็นตัวสำรองแล้วได้เปลี่ยนตัวลงไปเล่น แต่ด้วยความที่เป็นสนามแรกของเราก็จะตื่นเต้นมากจนทำอะไรไม่ถูก ไม่สามารถช่วยทีมได้เลยจนสุดท้ายก็โดนเปลี่ยนกลับออกมา เพราะกีฬาฮอกกี้จะสามารถเปลี่ยนตัวเข้าออกได้ตลอดเวลา ซึ่งวันนั้นก็ผิดหวังแต่ก็ได้ประสบการณ์มากขึ้นกว่าเดิม
Q : สนามไหนที่เรารู้สึกประทับใจตัวเองมากที่สุด
A : สนามที่ประทับใจมากที่สุดจะเป็นที่ประเทศมาเลเซีย ตอนนั้นได้ลงเล่นตัวจริงแล้วรู้สึกว่าเราไม่ตื่นเต้น สามารถทำได้ทุกอย่างตามที่เราซ้อมมา ก็รู้สึกว่าวันนั้นเราเป็นที่พึ่งของเพื่อน ๆ ในทีมได้ และเราทำประตูได้ด้วยในการแข่งขันวันนั้น
Q : ตอนนี้เป็นนักกีฬาทีมชาติแล้ว มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไหม
A : คงจะเป็นเรื่องสังคมในวงการฮอกกี้ที่เราได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง และทำให้มีคนรู้จักเรามากขึ้น เพราะการรู้จักคนมากย่อมเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วมีอะไรก็จะได้ช่วยเหลือกัน รวมถึงเรื่องเรียนด้วย เพราะกีฬาฮอกกี้ก็เหมือนเป็นใบเบิกทางทำให้เราได้มาเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
Q : คิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่นกีฬาฮอกกี้คืออะไร
A : การจะเล่นฮอกกี้อันดับแรกในความคิดผมคือ คุณต้องมีใจรักก่อน เพราะกีฬาฮอกกี้ไม่เหมือนกีฬาฟุตบอลหรือบาส กีฬาฮอกกี้ไม่ได้เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมถ้าคุณไม่มีใจรักผมว่าไม่มีทางที่คุณจะเล่นได้ และด้วยความที่เป็นกีฬาที่ค่อนข้างรุนแรงเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น แต่ถ้าเราเล่นด้วยความรักเราก็จะรู้ว่าไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น แถมยังมีเพื่อนเล่นร่วมกันกับเราด้วย เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนนักฟุตบอลมีรองเท้าสตั๊ดเอาไว้เตะลูกบอล ส่วนนักฮอกกี้ก็มีไม้ฮอกกี้เอาไว้ตีลูกพัค
Q : ฝากอะไรถึงคนที่ชอบเล่นกีฬาว่าทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จในชนิดกีฬาที่เราเลือก
A : อย่างแรกต้องมีความรักในกีฬาชนิดนั้นก่อน แล้วจึงจะเกิดความสุข เมื่อมีความสุขสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำก็จะออกมาดีเองและสุดท้ายโอกาสก็จะเดินเข้ามาหาเรา หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่าเราจะทุ่มเทกับโอกาสที่ได้รับมากน้อยแค่ไหน แต่อันดับแรกของการเล่นกีฬา ก็คือ เราต้องเลือกเล่นกีฬาที่เรารักแล้วความสำเร็จก็จะตามมาเอง
Comments