มิ้ว จิระพงศ์ มีนาพระ นักวิ่งลมกรดทีมชาติไทยระยะสั้น จากเมืองร้อยเกาะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอีกนักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย ที่เริ่มสร้างชื่อจากผลงานคว้าเหรียญรางวัลในกีฬาระดับประเทศ เช่น กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ เป็นต้น ก่อนที่จะติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2010 ที่เมืองกวางเจา ประเทศจีน ซึ่งในครั้งนั้น จิระพงศ์ มีนาพระ ได้ลงแข่งขันในประเภทวิ่ง 100 เมตร แต่ไม่ผ่านรอบคัดเลือก ขณะที่วิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร สามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครอง และได้แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในเวทีระดับอาเซียน ในรายการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 27 ปี 2013 ที่ประเทศเมียนมาร์ โดยสร้างประวัติศาสตร์กวาด 3 เหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ในประเภทวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร และวิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร จนได้รับฉายาว่า “ยูเซน โบลต์ เมืองไทย” ซึ่ง ยูเซน โบลต์ก็คือ นักกรีฑาระยะสั้นมือ 1 ของโลก จากประเทศจาเมกา ผู้ที่ทำลายทุกสถิติ
มิ้ว จิระพงศ์ มีนาพระ ลมกรดทีมชาติไทยกว่าจะประสบความสําเร็จมากขนาดนี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง และทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพกีฬา บ้านกล้วยกีฬาจะพามาหาคำตอบกัน
ทำไมถึงมาเป็นนักกีฬากรีฑา
ผมเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียนตั้งแต่ประถม พอจะจบป.6 ก็ต้องตัดสินใจว่าจะต่อมัธยมที่ไหน ผมก็เลือกที่จะซ้อมกีฬาเพื่อที่จะเข้าโรงเรียนที่ดีที่สุดของจังหวัดก็คือโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ในตอนนั้นผมเล่นกีฬาฟุตบอลและกรีฑา แต่ผมเองมีความเป็นเลิศในกีฬากรีฑาระยะสั้นในระยะ 60 เมตร และ 30 เมตร โดยชนะมาตลอด
จุดเปลี่ยนสำคัญที่หันมาเล่นกีฬากรีฑา
ตอนเด็กๆ ผมมีไอดอลก็คือ พี่โจ๊ก สิทธิชัย สุวรประทีป อดีตนักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย ตอนนั้นผมนั่งดูถ่ายทอดสดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ที่กรุงโดฮา ประเทศอินโดนีเซียในรายการวิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร พี่โจ๊กกดหัวเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ห่างจากญี่ปุ่นแค่เสี้ยววินาที คนไทยทั้งประเทศดีใจมาก ผมเห็นและประทับใจทำให้ผมคิดว่าวันหนึ่งผมจะเป็นแบบพี่โจ๊ก และต้องก้าวมาติดทีมชาติไทยให้ได้
ติดทีมชาติได้อย่างไร
ตอนนั้นทางสมาคมมีการเปิดเทสกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ตอนนั้นผมอยู่ม.5 และพึ่งจบจากการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติผมก็มาเทส 60 เมตร ปรากฏว่าเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ผมก็ งงๆ เข้าที่ 1 ได้ยังไง ในตอนนั้นผมแค่อยากรู้ว่าทีมชาติมีการซ้อมยังไง และทีนี้ผมได้รับโอกาสวิ่งไม้ 3 ที่กวางโจ ประเทศจีน และที่ภูมิใจกว่านั้นผมได้ส่งไม้ให้กับพี่โจ๊ก พี่ที่เป็นไอดอลผมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากเลย
การซ้อมในนามทีมชาติหนัก เบา แค่ไหน
ผมคิดว่าหนักนะ เข้มข้นพอสมควร เราซ้อมแข่งกับเพื่อนต่างชาติ เราต้องเข้าใจนะว่ากรีฑาไม่มีลีกเหมือนฟุตบอล กรีฑาจะเป็นมหกรรมอย่างเดียว มหกรรมก็คือทุกๆ ชาติจะทำทีมมาแข่งขันกัน เราต้องซ้อมฝึกฝนให้มากพอสมควร และก็ต้องยอมรับว่าเราสละเวลา เราเป็นนักกีฬาแล้ว เราต้องฝึกซ้อม เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตปกติแบบไลต์สไตล์เช่นเด็กมหาลัยทั่วไปคือหลังจากเลิกเรียนก็ไปเที่ยวกันปกติ แต่ผมต้องมาอยู่สนามมากกว่าอยู่ห้างอีก
วิธีรับแรกกดดันจากการซ้อมและแข่งขัน
ถ้าเครียดก็ฟังเพลงอาจทำให้ลืมความเหนื่อยได้บ้าง แน่นอนว่าทุกคนมีความกดดัน แต่สิ่งที่จะช่วยได้คือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากสิ่งรอบตัวจากพี่ๆ และโค้ช
สนามที่ทำให้ประทับใจที่สุด
กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมาร์ ตอนนั้นผมวิ่งได้ 3 เหรียญทองในประเภทวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร และวิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร เพราะเป็นอะไรที่ไม่คาดหวัง ผมหวังแค่ 100 เมตร และ 4 คูณ 100 เมตร แต่ผมได้มา 3 เหรียญทอง เหมือนฝันเพราะมันนานมากแล้วที่จะคว้า 3 เหรียญทอง ตอนนั้นก็มีพี่เหรียญชัย ซึ่งก็ผ่านมาประมาณ 30 ปีแล้ว แต่เราสามารถทำได้ ทำให้ผมดีใจที่สุด
หลังจากโดนแบนจากสมาคมกรีฑาแล้วกลับมาวิ่งอีกครั้งได้อย่างไร
ลำดับแรกเลยทุกคนเคยทำผิด แต่ว่าเราจะยอมรับผิดได้ไหม ยอมรับผิดในตัวเอง ยอมรับคนที่พูดคนที่สอนเรา ผมก็คิดแหละเราก็ควรปรับตัวกับกฏระเบียบของสมาคม จึงจะทำให้กลับมาทำสิ่งที่เรารัก จนกลับมาติดทีมชาติได้อีกครั้ง
สิ่งที่สำคัญที่สุดในอาชีพกรีฑา
ผมว่าคือ ความท้าทาย อย่างในการวิ่ง 100 เมตร ถ้าเวลาลงแค่เสี้ยววินาทีเดียวก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ถ้าเราประสบความสำเร็จแล้วสิ่งที่เข้ามาหาเราเรื่อยๆ ก็คือ หน้าที่การงาน เงินทอง ชื่อเสียง ผมว่าที่โอเคที่สุดก็คือ หน้าที่การงานทำให้เรามีเงินเดือนสามารถเอาไปเลี้ยงดูครอบครัวได้
ฝากถึงคนที่ชอบเล่นกีฬาทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพ
อย่างแรกเลยคือ อยากเชิญชวนให้คนมาเล่นกีฬา ตอนนี้เทรนด์กีฬากำลังมา แค่เราก้าวเดินออกจากบ้านก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายแล้ว เราหาเวลาว่างมาวิ่ง เตะฟุตบอล และกีฬาอื่นๆ ดีกว่าเราทำงานอย่างเดียว แต่เรากับไม่ได้ใช้เงินทองที่เราหามาเลย เพราะเราต้องเอาเงินไปรักษาตัวเอง แต่ถ้ามาออกกำลังกายเราจะได้เจอเพื่อนอีกกลุ่ม แบบคนละไลฟ์สไตล์กับการทำงาน ก็อยากเชิญชวนมาออกกำลังกาย เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
Comments