top of page
Writer's pictureBaankluay News

เฟสบุ๊ก ประกาศซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด

7 กรกฎาคม 2018 เฟสบุ๊ก ประกาศซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ในประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว ซึ่งคาดว่ามูลค่าอยู่ที่ 200 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินประมาณ 8,400 ล้านบาท โดยจะได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 ไปจนถึง 2021-22


ปัจจุบันเฟสบุ๊กถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ เพราะเริ่มมี Gamer หลาย ๆ คนที่หันมาใช้การสตรีมมิ่งผ่านทางแพลตฟอร์มดังกล่าว ยกตัวอย่างมหกรรมกีฬาอย่าง MLB (ลีกเบสบอล) และ WLS (กีฬาโต้คลื่น) ก็หันมาใช้เฟสบุ๊กในการเผยแพร่สัญญานภาพแล้วเช่นกัน


ขอบคุณภาพจาก Facebook : Major League Baseball

ขอบคุณภาพจาก Facebook : World Surf League

เมื่อสำรวจทรัพย์สินของ Mark Zuckerberg พบว่าเขามีทรัพย์สินสูงถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์ รวยเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ถือได้ว่าการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์เพื่อถ่ายทอดสดในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ Mark มากเท่าไหร่นัก


นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ เฟสบุ๊ก ที่จะตีตลาดเอเชีย หลังมีข้อมูลจาก Global Digital เมื่อเดือนเมษายน 2018 พบว่า 10 ประเทศที่มียอดการใช้ เฟสบุ๊ก มากที่สุดในโลกมีประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 2 ประเทศ คือประเทศไทย และเวียดนาม


ในด้านของชื่อเสียงถือว่านี้เป็นอีกหนึ่งทางลัดของเฟสบุ๊กที่จะทำให้ดึงดูดผู้คนให้หันเข้ามาใช้งานแอพพลิเคชั่นของพวกเขามากขึ้น ตัวอย่างเช่น พีพีทีวี ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการซื้อลิขสิทธิ์กีฬาระดับโลกมาถ่ายทอดสด จนเคยทำเรตติ้งสูงที่สุดเป็นอันดับ 7  ทั้ง ๆ ที่ก่อตั้งได้เพียง 5-6 ปีเท่านั้น และยังกลายเป็นฟรีทีวีอันดับ 1 ด้านคอนเทนต์กีฬาไปโดยปริยายอีกด้วย


การที่พรีเมียร์ ลีกหันมาออกอากาศบนแพลตฟอร์มออนไลน์มีทั้งข้อดี และข้อเสีย ข้อดี คือการหาสปอนเซอร์ที่ง่าย เนื่องจากวัดได้โดยทันที ทว่าข้อเสีย เป็นเรื่องของความล่าช้าของระบบอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญการได้ลิขสิทธิ์ครั้งนี้ บ้านกล้วยกีฬามองว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ของวงการสื่อดิจิทัลอย่างแท้จริง


นายวีระพล เต็มโชติกุศล พิธีกรช่อง พีพีทีวี กล่าวว่า การดูกีฬาให้สนุกต้องดูแบบถ่ายทอดสด แต่การดูบนอินเทอร์เน็ตจะช้ากว่า และมีความเสี่ยงตรงที่เว็บอาจล่ม เพราะต้องรองรับกับคนดูเป็นจำนวนมาก การดูกีฬาจึงควรดูในทีวีมากกว่า เนื่องจากมีความเสถียร และเป็น live มากกว่า ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต เฟสบุ๊ก จะซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมากขึ้น


“แต่ถ้าถามถึงข้อดีของการที่ เฟสบุ๊ก ได้ลิขสิทธิ์ คือหาสปอนเซอร์ง่าย ยอดผู้เข้าชมเห็นเลยไง สามารถเอาตรงนี้ไปอ้างอิง ไปเสนอสปอนเซอร์ ยังไงเขาก็เชื่อ เพราะงั้นนะ เขาลงทุนกับกีฬาแน่ ๆ ซื้อเพิ่มอีก” วีระพล เต็มโชติกุศล กล่าว


การได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ ลีก ของ เฟสบุ๊ก เป็นตัวอย่างที่บ่งบอกว่ารูปแบบในการผลิตเนื้อหากีฬาลงสื่อดิจิตอลกำลังเพิ่มมากขึ้น จากแต่ก่อนที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะมีเพียงแค่ผู้ประกอบการช่องโทรทัศน์เท่านั้นที่ได้ไป แต่อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ทีสุดในยุโรป ซึ่งบริษัท DAZN เจ้าของเว็บไซต์ โกลดอทคอม ก็ได้หันมาทุ่มเงินจำนวนมหาศาลสำหรับฟุตบอลดังกล่าวเช่นกัน


The Drum เว็บไซต์ที่รายงานข่าวแวดวงดิจิทัล เปิดเผยว่าการที่พรีเมียร์ ลีก เปลี่ยนแพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดจากทีวีมาเป็นเฟสบุ๊ก จะช่วยดึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เพราะมีตัวเลขบ่งบอกว่า ขณะนี้ผู้คนที่ใช้ทีวีในแบบเพย์ทีวีมีจำนวนลดลง อย่างเช่น สกายสปอร์ต และบีที สปอร์ต ทั้งสองสถานีโทรทัศน์ต่างประเทศที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ ลีก ร่วมกันในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ 2015 ลงทุนกับการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ร่วมกันที่ 5 พันล้านปอนด์ ค่าเฉลี่ยในการติดตามการถ่ายทอดสดทาง สกายสปอร์ต ตลอดฤดูกาล 2016-17 ลดลงจากฤดูกาลก่อนหน้าที่ 14 เปอร์เซนต์


ส่วนสมาชิก บีที สปอร์ต ของเดือนกุมภาพันธ์ มีการสำรวจพบว่า หายไปหลายพันราย เพราะทางสถานีเพิ่มค่าสมาชิกรายเดือนสูงขึ้น นี่จึงหมายความว่า การขายลิขสิทธิ์เป็นทอด ๆ ให้กับภูมิภาคอื่น จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการชดเชยรายได้จากจำนวนคนที่หายไปของทั้งสกายสปอร์ต และบีที สปอร์ต


ไทมส์ สำรวจพบข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งว่า คนหันมาใช้เวลากับอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะ เฟสบุ๊ก มากขึ้น ตัวเลขเพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซนต์ในทุก ๆ ปี และในปี 2018 คนใช้เวลาเฉลี่ยต่อวันแล้วที่ 221 นาที นี่คือการช่วงชิงความได้เปรียบจากการที่คนหันมาใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น ซึ่งสื่อสำนักดังกล่าวของอังกฤษ เชื่อว่าพรีเมียร์ ลีกก็คงมีความคิดเช่นกันว่าแพลทฟอร์มออนไลน์ คือหนทางที่ดีที่สุดในการเพิ่มรายได้และรักษาฐานผู้ชมเอาไว้

94 views0 comments

Commenti


bottom of page